- หน้าแรก
- ข่าวประชาสัมพันธ์
- รายละเอียดข่าว
สศท.7 เปิดผลวอเตอร์ฟุตปริ้นท์ ข้าวแปลงใหญ่ลพบุรี เผย ผลิตข้าวเปลือก 1 ไร่ ใช้น้ำ 1,075.08 ลบ.ม.
ข่าวที่ 163/2559
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2559
สศท.7
เปิดผลวอเตอร์ฟุตปริ้นท์ ข้าวแปลงใหญ่ลพบุรี เผย ผลิตข้าวเปลือก 1 ไร่ ใช้น้ำ 1,075.08 ลบ.ม.
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่
7 ติดตามปริมาณการใช้น้ำ (Water
Footprint) จากการปลูกข้าวในพื้นที่ส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่
อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ของข้าวพันธุ์ กข ระบุ ผลิตข้าวเปลือก 1 ไร่ ใช้น้ำ 1,075.08
ลูกบาศก์เมตร แนะ ต้องสร้างความรู้เทคโนโลยี เกษตรกรตระหนักการใช้น้ำ และเลือกพันธุ์อย่างเหมาะสม
นายคมสัน จำรูญพงษ์
รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เปิดเผยถึงการศึกษาปริมาณการใช้น้ำ (Water Footprint) จากการปลูกข้าวในพื้นที่ส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่
จังหวัดลพบุรี โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 จังหวัดชัยนาท (สศท.7) ซึ่งการศึกษาดังกล่าว
มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำบัญชีรายการการใช้น้ำ
ศึกษาปริมาณการใช้น้ำ ประเมินมูลค่าน้ำทางเศรษฐกิจและเปรียบเทียบผลตอบแทนทางเศรษฐกิจจากการผลิตของข้าวในพื้นที่ส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่
จังหวัดลพบุรีโดยรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เกษตรกรผู้ปลูกข้าวพันธุ์ กข
โดยวิธีหว่านน้ำตม ปีเพาะปลูก 2558/59ที่เป็นสมาชิกในพื้นที่โครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ตำบลสนามแจง
อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี จำนวน 51
ราย
ผลการศึกษาพบว่า ปริมาณการใช้น้ำ (Water
Footprint) ของข้าวพันธุ์ กข ในพื้นที่ส่งเสริมการเกษตรแบบ แปลงใหญ่ อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี
สำหรับการผลิตข้าวเปลือก 1 ไร่ ใช้น้ำ 1,075.08 ลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็นปริมาณน้ำฝน
(Green Water Footprint) 493.90 ลูกบาศก์เมตร น้ำชลประทาน (Blue Water Footprint) 581.18 ลูกบาศก์เมตร ต้นทุนการผลิตข้าวเฉลี่ย 4,104.34 บาท/ไร่
ผลตอบแทนสุทธิต่อไร่ 1,935.93 บาท ต้นทุนการผลิตข้าวเมื่อรวมต้นทุนค่าน้ำเฉลี่ย
4,394.93 บาท/ไร่ ผลตอบแทนสุทธิต่อไร่ 1,645.34 บาท โดยปริมาณน้ำ1 ลูกบาศก์เมตร
สามารถสร้างรายได้จากการปลูกข้าว 5.62 บาท
ทั้งนี้ เพื่อการใช้ทรัพยากรน้ำให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาครัฐควรกำหนดมาตรการด้านการเกษตร นอกจากการสนับสนุนความรู้ และปัจจัยการผลิตแล้ว
ควรพิจารณาจัดหาแหล่งน้ำให้เกษตรกรควบคู่ไปด้วย
และสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญของการใช้น้ำ
และเกษตรกรควรเลือกพันธุ์ให้เหมาะสมนำเทคโนโลยี หรือแนวคิดใหม่ๆ
มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ซึ่งผลการศึกษาวิจัยดังกล่าว
จะเป็นข้อมูลนำไปจัดทำแนวทางบริหารจัดการน้ำและส่งเสริมการปลูกพืช
นำไปสู่การใช้ทรัพยากรการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เป็นข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายและการหาแนวทางมาตรการจูงใจการปลูกพืชได้ต่อไป
ท่านที่สนใจผลการศึกษา สามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่
7 จังหวัดชัยนาท โทร. 056 405 007 อีเมล zone7@oae.go.th
*********************
ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์
ข้อมูล : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่
7 จังหวัดชัยนาท